Suzuki Ertiga Smart Hybrid-เพิ่มความน่าใช้แต่นิสัยไม่เหมือนรถไฮบริดนะ

ภาพรวมดีขึ้น..รอแค่ราคาว่าจะแพงขึ้นมากหรือไม่ หน้าตาเปลี่ยนไม่มาก ภายในเปลี่ยนนิดๆ เพิ่ม Wireless Charger และ Cruise Control มาให้ พร้อมหน้าปัดชุดใหม่ จุดเด่นของรถยังคงเป็นเรื่องช่วงล่างนั่งสบาย ภายในกว้างขวาง ขึ้นง่ายลงสะดวก แต่ระบบไฮบริดนั้น ความเห็นส่วนตัวผม ยังมองว่าเป็นแค่ระดับ Mild-Hybrid ซึ่งจะนิสัยไม่เหมือน Toyota Honda หรือ Nissan ไฮบริดที่คนส่วนมากคุ้นเคย เช่น เครื่องจะไม่ดับถ้ารถไม่หยุดนิ่ง และไม่ได้ใช้มอเตอร์แบบฝังในเกียร์ แถมยังใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดลูกเดิม


ระบบ Smart Hybrid ของ Suzuki นั้น ใช้การเอามอเตอร์ ISG ไปแปะตรงไดชาร์จเดิม ซึ่งมอเตอร์ตัวนี้จะพ่วงเข้ากับเครื่องด้วยสายพาน ตัวมอเตอร์สามารถ
1) ปั่นไฟชาร์จกลับไปใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถ
2) ช่วยสตาร์ท เฉพาะเวลาเปิด Auto Start/Stop
3) เสริมแรงขับเคลื่อนเมื่อกดคันเร่งไม่เยอะมากนัก


แต่ตัวรถ จะไม่สามารถวิ่งใน EV Mode ได้ ไม่สามารถยกคันเร่ง ดับเครื่องชะลอเข้าสี่แยก และไม่สามารถจอดเปิดแอร์เย็นนิ่งๆโดยไม่ติดเครื่อง พูดง่ายๆคือ นิสัยเหมือนรถเบนซิน แต่การมีระบบ Smart Hybrid ไปช่วยในแง่การประหยัดน้ำมันในเมือง


แม้ความสามารถภายใต้นิยามคำว่า Hybrid จะค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะทำได้แค่ Mild-Hybrid แต่ข้อดีคือ ปั๊มเบรก คอมแอร์ ใช้พาร์ทเดียวกับรุ่นเบนซินเดิม การดูแลรักษาต่างจากรุ่นเบนซินเดิมแค่ แบตเตอรี่ลิเธียม ซึ่งมีขนาดเล็กและราคาถูกกว่าแบตเตอรี่ไฮบริด Toyota และตัวมอเตอร์ ISG เอง ในการใช้งาน ทาง Suzuki ออกแบบให้รถยังมีไดสตาร์ท (Starter) แบบรถเบนซินเดิมเอาไว้ด้วย ทำให้ต่อให้ ISG พัง แบตลิเธียมเสื่อม รถก็จะยังสามารถสตาร์ทติดและขับใช้งานได้อยู่


ผมอาจจะไม่ว่างอ่านหรือตอบคอมเมนต์ ดังนั้นสำหรับท่านที่ต้องการสอบถามมายังผมโดยตรง รบกวน ส่ง Inbox มาที่นี่เลยครับผม Facebook: Pansawat Paitoonpong

  / 2hands4wheels  


#ertiga
#SuzukiSmartHybrid
#รถ7ที่นั่ง